ถ้าถามว่า ฝากครรภ์ ควรฝากเมื่อไรดี แม่ค้าขอบอกว่า ทันทีที่คุณแม่รู้ตัวว่าท้อง ควรจะรีบ ฝากครรภ์ ให้เร็วที่สุดคะ เนื่องจากเจ้าตัวน้อย จะมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการทางสมองรวดเร็ว ในช่วงแรก ดังนั้น ถ้าถึงมือคุณหมอ เราจะได้รับวิตามิน และโฟเลต (กรดโฟลิก) มาบำรุง ซึ่งจะเป็นการป้องกันการผิดปกติของเส้นประสาทของเจ้าตัวน้อยคะ

ส่วนเรื่องการ ฝากครรภ์ ควรฝากที่ไหนดี แม่ค้าแนะนำว่า ควรฝากโรงพยาบาลที่คุณแม่ไว้ใจที่ใกล้ตัวที่สุด อย่าลืมว่า เราไม่รู้ว่าจะปวดท้องคลอดเมื่อไร หากคุณแม่ฝากท้องไว้ไกลจากบ้าน หรือที่ทำงาน กว่าจะไปถึงโรงพยาบาล อาจไม่ทันการคะ สำหรับคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวอยู่ ควรฝากครรภ์ ที่โรงพยาบาลเดียวกันกับที่ตรวจโรคประจำตัวนั้นๆ เพราะมีประวัติรักษา และการใช้ยาอยู่คะ

 

โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลรัฐ ที่ไหนดีกว่ากัน

โรงพยาบาลเอกชน เป็นตัวเลือกที่ดีคะ เพราะจะได้รับการตรวจ และติดตามผลจากคุณหมอคนเดิมทุกครั้ง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย โรงพยาบาลรัฐจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่มักจะต้องนานเนื่องจากมีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถระบุแพทย์ได้ ยกเว้นแต่จะขอฝากครรภ์พิเศษ ซึ่งคุณแม่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นคะ

 

ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์

เท่าที่แม่ค้ารวบรวมข้อมูลมา (ปี 2560) โรงพยาบาลรัฐ และ โรงพยาบาลเอกชน มีค่าใช้จ่ายในการตรวจทารกในครรภ์ตั้งแต่เดือนแรก จนถึงก่อนคลอด ประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ยังไม่รวม แพ็คเก็จคลอดนะคะ เท่าที่รู้มา ราคาแพ็คเก็จคลอด มีตั้งแต่ 18,000 -50,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการคลอดแบบธรรมดา หรือผ่าคลอดคะ

 

ตรวจครรภ์ตรวจอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว  รายการที่ต้องตรวจในระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ จะไม่ต่างกันมาก มีตามนี้คะ

  1. ตรวจปัสาวะ เพื่อวัดปริมาณ น้ำตาล และไข่ขาว / ตรวจทุกครั้งที่ทำการนัดแพทย์
  2. ตรวจเลือด / ตรวจครั้งเดียวตอนแรกตั้งครรภ์
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
  • ตรวจหมู่เลือด Blood Group + RH
  • ตรวจหาธาลัสซีเมีย ( Hb typing )
  • ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบ (  Anti HBs Ag  )
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ (   HBs Ag  )
  • ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ( VDRL )
  • ตรวจหาโรคเอสด์ ( HIV )
  • ตรวจหาเชื้อหัดเยอรมัน ( Rubella IgC )
  1. อัลตราซาวด์ แบบ 2 มิติ / 2 – 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กันโรงพยาบาล โดยมากจะทำอัลตราซาวด์ตอนข่วงเดือน 4 หรือ 5 เพื่อดูความสมบูรณ์ของทารก และ ดูเพศ และทำอีกทีตอนเดือน 8 หรือ 9 เพื่อดูความพร้อมของทารกก่อนทำการคลอด
  2. เจาะน้ำคร่ำ ในคุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือมีเหตุจำเป็นอื่น
  3. ในกรณีที่คุณแม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกันบาดทะยัก จะต้องฉีด 2 เข็ม ด้วยคะ

 

ถึงแม้ว่า การฝากครรภ์ จะมีเรื่องของค่าใช้จ่ายตามมา แต่ก็เทียบไม่ได้กับความสบายใจของคุณแม่ ที่จะมั่นใจว่า เจ้าตัวน้อยของเรา มีสุขภาพดี และกำลังเริงร่าอยู่ในท้องคะ ^^

 

เขียนโดย : www.babekits.com